Epic Games ประกาศปรับวิธีคิดค่าใช้จ่าย Unreal Engine สำหรับการใช้งานที่ไม่ใช่เกม เช่น การทำหนัง รายการทีวี คลิปหรือภาพสำหรับงานสถาปัตยกรรม ภาพเคลื่อนไหวในงานอีเวนต์หรือสวนสนุก ฯลฯ การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป
วิธีคิดค่าใช้จ่ายใหม่:
- คิดค่าธรรมเนียมรายปี: แทนที่จะคิดค่าธรรมเนียมตามจำนวนผู้ใช้ (seat-based subscription)
- ราคา: $1,850 ต่อปี
- เครื่องมือที่รวมอยู่: Unreal Engine, Twinmotion และ RealityCapture
ตัวเลือก:
- อัปเกรดเป็น Unreal Engine 5.4: จ่ายค่าธรรมเนียมรายปี
- อยู่กับ Unreal Engine 5.3 ต่อไป: ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรายปี แต่จะไม่ได้รับการอัปเดตใหม่
Unreal Engine ในภาพยนตร์:
- กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น
- เปลี่ยนจากการสร้างฉากจำลองในโลกจริง มาเป็นการสร้างฉากดิจิทัล
- ตัวอย่างภาพยนตร์/ซีรีส์ที่ใช้ Unreal Engine: The Mandalorian
สรุป:
- Epic ปรับวิธีคิดค่าใช้จ่าย Unreal Engine ใหม่สำหรับงานที่ไม่ใช่เกม
- ผู้ใช้มีตัวเลือกสองทาง: อัปเกรดเป็น 5.4 จ่ายค่าธรรมเนียม หรืออยู่กับ 5.3 ต่อไป
- Unreal Engine กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในวงการภาพยนตร์
ประเด็นสำคัญ:
- Epic Games ปรับวิธีคิดค่าลิขสิทธิ์ Unreal Engine สำหรับการใช้งานนอกเหนือจากเกม
- วิธีคิดค่าลิขสิทธิ์แบบใหม่ใช้จำนวนนักพัฒนาที่ใช้งาน (seat-based subscription)
- Unreal Engine 5.4 เวอร์ชันใหม่จะมีค่าลิขสิทธิ์แบบใหม่
- ผู้ใช้ Unreal Engine 5.3 ต่อไป จะไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์เพิ่มเติม
- Unreal Engine กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในวงการภาพยนตร์
ที่มา: Epic Games